การเป็นหฺวังโฮ่ว ของ เว่ย์ จื่อฟู

การขับพระนางเฉิน เจียว ทำให้ตำแหน่งหฺวังโฮ่วว่างลง ครั้น 129 ปีก่อนคริสตกาล เว่ย์ ชิง น้องชายของเว่ย์ จื่อฟู นำทัพม้า 10,000 นายไปรบซฺยงหนู (匈奴) ชนะ ปีถัดมา เว่ย์ จื่อฟู คลอดพระโอรสของจักรพรรดิฮั่นอู่ คือ หลิว จฺวี้ ซึ่งเป็นพระโอรสพระองค์แรกของจักรพรรดิฮั่นอู่ ทำให้จักรพรรดิดีพระทัย และทรงสถาปนานางขึ้นเป็นหฺวังโฮ่วในปีนั้นเอง ต่อมาใน 122 ปีก่อนคริสตกาล ยังทรงสถาปนาหลิว จฺวี้ ขึ้นเป็นรัชทายาท

เมื่อเว่ย์ จื่อฟู ได้เป็นหฺวังโฮ่วแล้ว เว่ย์ ชิง ก็มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการรบกับซฺยงหนู จนเมื่อเอาชนะเจ้านายซฺยงหนูซึ่งดำรงตำแหน่งโย่วเสียนหวัง (右賢王) ได้ใน 123 ปีก่อนคริสตกาล เว่ย์ ชิง ก็ได้เลื่อนเป็นแม่ทัพใหญ่เรียก ต้าเจียงจฺวิน (大將軍) นอกจากนี้ ฮั่ว ชฺวี่ปิ้ง หลานชายของเว่ย์ จื้อฟู ยังขึ้นชื่อว่า เป็นนักกลยุทธ์ทหาร มีผลงานเป็นการชิงชัยเหนือเส้นทางเหอซีโจ่วหลาง (河西走廊) เป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ใน 123 ปีก่อนคริสตกาลนั้นเอง จึงปรากฏว่า ตระกูลเว่ย์มีสมาชิกที่เป็นขุนนางสูงศักดิ์ถึงห้าคน แม้เดิมเป็นชนชั้นทาสก็ตาม ถือเป็นเกียรติยศชั้นสูงสำหรับวงศ์ตระกูล

แม้ความรุ่งเรืองของตระกูลเว่ย์จะมีสาเหตุหลักมาจากผลงานทางทหารของเว่ย์ ชิง กับฮั่ว ชฺวี่ปิ้ง แต่เว่ย์ จื่อฟู ก็มักได้รับการพิจารณาว่า เป็นเสาหลักของตระกูล สมัยนั้นมีเพลงชาวบ้านร้องขับขานกันว่า "ได้ลูกชายอย่าดีใจ ได้ลูกสาวอย่าเคืองใจ เห็นหรือไม่ เว่ย์ จื่อฟู ก็ครองทั่วหล้าได้" (生男無喜,生女無怒,獨不見衛子夫霸天下!) ความสำเร็จขนานใหญ่ของตระกูลเว่ย์นี้ทำให้จักรพรรดิราชวงศ์ฮั่นในสมัยต่อ ๆ นิยมสมรสกับสตรีตระกูลเว่ย์

มีบันทึกว่า เว่ย์ จื่อฟู เมื่อได้ดำรงตำแหน่งหฺวังโฮ่วแล้ว วางตนเรียบง่าย อ่อนโยน พยายามรักษาสมาชิกวงศ์ตระกูลให้อยู่ในลู่ในทาง แต่เมื่อเวลาผ่านไป จักรพรรดิฮั่นอู่ก็ทรงเริ่มเบื่อหน่ายเว่ย์ จื่อฟู และทรงหันไปมีสัมพันธ์กับสตรีคนอื่น ๆ แทน ในจำนวนนี้รวมถึง หวังฟูเหริน (王夫人), หลี่ฟูเหริน (李夫人) น้องสาวของหลี่ หยานเหนียน (李延年) นักดนตรีในราชสำนัก, และจ้าวเจี๋ย-ยฺหวี (趙婕妤) ผู้ให้กำเนิดหลิว ฝูหลิง (劉弗陵) ซึ่งภายหลังได้ครองราชย์เป็นจักรพรรดิฮั่นเจา (汉昭帝) กระนั้น จักรพรรดิฮั่นอู่ก็ยังทรงให้เกียรติเว่ย์ จื่อฟู และยังไว้วางพระทัยให้นางปกครองฝ่ายใน ทั้งให้หลิว จฺวี้ รัชทายาทซึ่งเป็นโอรสของนาง ได้สำเร็จราชการแผ่นดิน

ใกล้เคียง